“เฟรเซอร์สโฮม” ชูความได้เปรียบต้นทุนที่ดิน ปรับพอร์ตรุกบ้านแฝด-บ้านเดี่ยวรับกำลังซื้อ

“เฟรเซอร์ส โฮม” ปรับกลยุทธ์สร้างความยั่งยืน เดินหน้าแผนธุรกิจในเฟส 2 ปรับโปรดักต์เพิ่มสินค้าบ้านแฝดและบ้านเดี่ยว กระจายโครงการมากขึ้น ลดความเสี่ยงกำลังซื้อชะลอตัว แบงก์เข้มงวดปล่อยสินเชื่อกลุ่มทาวน์โฮม ประกาศปีนี้เปิด 25 โครงการ มูลค่า 29,500 ล้านบาท เปิดตัวบ้านเดี่ยวแบรนด์ใหม่ใจกลางเมือง ชู 4 กลยุทธ์ก้าวสู่การเติบโต งัดที่ดินต้นทุนเดิมพัฒนาโครงการ สร้างความได้เปรียบเรื่องราคา หลังต้นทุนวัสดุก่อสร้างพุ่ง

บริษัท เฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้ โฮม (ประเทศไทย) จำกัด กลุ่มธุรกิจอสังหาริมทรัพย์เพื่อที่อยู่อาศัย ซึ่งเป็นหนึ่งใน 3 กลุ่มธุรกิจของบริษัท เฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) กำลังเดินหน้าเข้าสู่โหมดของแผนธุรกิจในเฟสที่ 2 บนสถานการณ์ที่ยังมีการระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 และปัจจัยเสี่ยงต่างๆ ที่มีผลต่อภาพรวมของตลาดอสังหาริมทรัพย์ เป็นเรื่องที่ท้าทายมากๆ สำหรับผู้ประกอบการที่เข้ามาสู่ตลาด

“พฤิตกรรมของผู้ซื้อเปลี่ยนแปลงไปเยอะในสถานการณ์ที่มีโควิด ทั้งเรื่องการทำงานที่บ้าน คนห่วงตัวเอง รักษาสุขภาพ ซึ่งปีนี้เศรษฐกิจไม่ค่อยดี กิจกรรมการขายโครงการยังมีอยู่ ไม่น่าจะสะดุด แต่สภาพปัญหาการพัฒนาโครงการยังคงมีปัญหาและเป็นอุปสรรค ทั้งเรื่องเงินเฟ้อเพิ่มขึ้นร้อยละ 1.23 ต้นทุนวัสดุก่อสร้างปรับขึ้นไม่ต่ำกว่าร้อยละ 10 เรื่องแรงงานที่ยังขาดแคลนอยู่ รายได้ของประชาชนลดลงและไม่มั่นคง สวนทางกับค่าใช้จ่ายที่สูงขึ้น ธนาคารมีความเข้มงวดในการปล่อยสินเชื่อ อันเป็นผลจากเรื่องหนี้ครัวเรือนในระดับที่สูงร้อยละ 90 ขณะที่การแข่งขันในตลาดแนวราบสูง รวมทั้งการเมืองที่ยังคงมีความเสี่ยงอยู่” นายแสนผิน สุขี ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้ โฮม (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวถึงปัจจัยเสี่ยงที่ยังคงเป็นอุปสรรคต่อการฟื้นตัวของภาคอสังหาฯ

อย่างไรก็ดี นายแสนผิน มองว่า การจะขับเคลื่อนให้เศรษฐกิจเติบโตได้นั้นต้องมองเรื่องการลงทุนของภาครัฐและการกระตุ้นการบริโภคภายในประเทศ เช่น โครงการคนละครึ่ง หรือกระตุ้นภาคการท่องเที่ยว

สำหรับทิศทางธุรกิจของบริษัทเฟรเซอร์ส โฮม ในปี 2565 ยังอยู่ในเฟส 2 ของแผนธุรกิจที่เราจะเดินหน้าไปข้างหน้า แต่จะมีการปรับเปลี่ยนให้เข้ากับสถานการณ์และเป้าหมาย เนื่องจากช่วง 2 ปีที่ผ่านมา (2563-2564) สินค้าในกลุ่มทาวน์โฮมถูกผลกระทบจากโควิด ฐานรายได้ลูกค้าระดับปานกลางเจอโควิด ตัวเลขยอดการปฏิเสธสินเชื่อจากสถาบันการเงินที่สูงขึ้นมาก ซึ่งช่วง 2 ปีที่ผ่านมา เราพยายามอยู่กับโควิดและสู้เพื่ออยู่ให้ได้ โดยมีการปรับเปลี่ยนจากทาวน์โฮมมาสู่บ้านแฝดและบ้านเดี่ยวในเมืองมากยิ่งขึ้น นั่นจึงเป็นเหตุผลที่ในปี 2565 การเปิดโครงการใหม่ของเฟรเซอร์ส โฮม จะให้น้ำหนักกับ 2 โปรดักต์ดังกล่าวสัดส่วนมากถึงประมาณกว่าร้อยละ 60 ส่วนสินค้ากลุ่มทาวน์โฮมลดลงมาอยู่ที่ร้อยละ 30 แต่ยังรักษาตลาดกลุ่มนี้ไว้ โดยจะมีการเปิดตัวทาวน์โฮมที่มีฟังก์ชันดีไซน์ใหม่

 

โดยในแผนธุรกิจปีนี้ จะมีการเปิด 25 โครงการ มูลค่า 29,500 ล้านบาท ประกอบด้วย ทาวน์โฮม 10 โครงการ นีโอ โฮม บ้านแฝด จำนวน 2 โครงการ บ้านเดี่ยว 10 โครงการ และ 3 โครงการในต่างจังหวัด โดยโครงการบ้านเดี่ยวมีสัดส่วนของซิตี้โฮม โครงการใหม่ใจกลางเมือง คือ โครงการเดอะ แกรนด์ วิภาวดี 60 พร้อมเพิ่มสินค้าระดับบนลักชัวรีอย่างแบรนด์ The Royal Residence แพงสุดหลังละ 200 ล้านบาท

“ตัวเลขเป้ารายได้ปีนี้วางไว้ 13,000 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 13 โดยที่เราจะเน้นเรื่องการสร้างรายได้เป็นหลัก เพราะการมียอดขายเป็นหมื่นล้านแสนล้าน แต่ไม่สามารถประมาณการเรื่องรายได้ เพราะผลจากหนี้ครัวเรือนที่สูงมีผลต่อการตัดสินใจของลูกค้าได้ แต่สิ่งที่สำคัญมากกว่า คือ ความมั่นใจในผลิตภัณฑ์ของลูกค้าในการซื้อบ้านที่จะทำให้บริษัทก้าวไปสู่ความยั่งยืนได้อย่างแท้จริง จึงเป็นสิ่งที่เราให้ความสำคัญมาตลอดในการพัฒนาบ้านให้เป็นบ้านในฝันของลูกค้าทุกคน ไม่ว่าจะเป็นการดีไซน์ที่โดดเด่นสวยหรูถูกใจ ทำเลที่มีศักยภาพสูง พร้อมฟังก์ชันครบคุ้มโดนใจ ที่นับเป็นกุญแจสำคัญในการตัดสินใจซื้อของลูกค้า”

 

สำหรับกลยุทธ์การก้าวสู่การเติบโตที่ยั่งยืน ได้แก่ 1.Land Bank Development บริษัทมีความได้เปรียบในเรื่องการนำที่ดินเดิมที่ซื้อไว้แล้วมาพัฒนา เพื่อลดความเสี่ยงในการที่มูลค่าของที่ดินเพิ่มสูงขึ้นทุกปี จึงทำให้ได้เปรียบในเรื่องของการควบคุมต้นทุน

2.Portfolio Diversification การกระจายพอร์ตสินค้า เพิ่มแบรนด์ให้หลากหลาย โดยการปรับสัดส่วนของผลิตภัณฑ์เพื่อเป็นการกระจายรายได้ และส่วนแบ่งของผลิตภัณฑ์ทั้งหมดของบริษัท โดยวางกลยุทธ์ของแต่ละผลิตภัณฑ์ เช่น บ้านเดี่ยว & City Home พัฒนาแบบบ้านเดี่ยวรุ่นใหม่ให้ตอบโจทย์กลุ่มลูกค้ามากขึ้น และรักษากลุ่มลูกค้าฐานจังหวัดเดิม โดยเปิดโครงการใหม่เพื่อทดแทนโครงการเดิมที่ใกล้จะหมดด้วยแบบบ้านที่ตอบโจทย์การใช้ชีวิต

และการเตรียมความพร้อมของที่ดินรองรับการเข้าสู่ตลาดคอนโดมิเนียมโลว์ไรส์ เน้นกลุ่ม Real Demand อยู่ในทำเลที่เดินทางสะดวก เจาะกลุ่มคนรุ่นใหม่ ฐานะรายได้ประมาณ 40,000 บาท คาดว่าปีนี้จะมี 1 โครงการ และจะมีการพัฒนาเปิดโครงการคอนโดฯ ต่อเนื่องไปถึงปี 2568

3.Quality พัฒนาและรักษามาตรฐานการก่อสร้างในทุกโครงการ และ 4.Technology พัฒนาแอปพลิเคชันใหม่ HOME+ (โฮมพลัส) ที่จะชวนทุกคนมาสัมผัสประสบการณ์ใหม่

อ้างอิง
https://m.mgronline.com/stockmarket

“เฟรเซอร์ส โฮม” ปรับกลยุทธ์สร้างความยั่งยืน เดินหน้าแผนธุรกิจในเฟส 2 ปรับโปรดักต์เพิ่มสินค้าบ้านแฝดและบ้านเดี่ยว กระจายโครงการมากขึ้น ลดความเสี่ยงกำลังซื้อชะลอตัว แบงก์เข้มงวดปล่อยสินเชื่อกลุ่มทาวน์โฮม ประกาศปีนี้เปิด 25 โครงการ มูลค่า 29,500 ล้านบาท เปิดตัวบ้านเดี่ยวแบรนด์ใหม่ใจกลางเมือง ชู 4 กลยุทธ์ก้าวสู่การเติบโต งัดที่ดินต้นทุนเดิมพัฒนาโครงการ สร้างความได้เปรียบเรื่องราคา หลังต้นทุนวัสดุก่อสร้างพุ่ง บริษัท เฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้ โฮม (ประเทศไทย) จำกัด กลุ่มธุรกิจอสังหาริมทรัพย์เพื่อที่อยู่อาศัย ซึ่งเป็นหนึ่งใน 3 กลุ่มธุรกิจของบริษัท เฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) กำลังเดินหน้าเข้าสู่โหมดของแผนธุรกิจในเฟสที่ 2 บนสถานการณ์ที่ยังมีการระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 และปัจจัยเสี่ยงต่างๆ ที่มีผลต่อภาพรวมของตลาดอสังหาริมทรัพย์ เป็นเรื่องที่ท้าทายมากๆ สำหรับผู้ประกอบการที่เข้ามาสู่ตลาด “พฤิตกรรมของผู้ซื้อเปลี่ยนแปลงไปเยอะในสถานการณ์ที่มีโควิด ทั้งเรื่องการทำงานที่บ้าน คนห่วงตัวเอง รักษาสุขภาพ ซึ่งปีนี้เศรษฐกิจไม่ค่อยดี กิจกรรมการขายโครงการยังมีอยู่ ไม่น่าจะสะดุด แต่สภาพปัญหาการพัฒนาโครงการยังคงมีปัญหาและเป็นอุปสรรค ทั้งเรื่องเงินเฟ้อเพิ่มขึ้นร้อยละ 1.23 ต้นทุนวัสดุก่อสร้างปรับขึ้นไม่ต่ำกว่าร้อยละ…