หุ้นไทยเบาบาง เข้าสู่เทศกาลสงกรานต์

หุ้นไทยสัปดาห์ที่ผ่านมา (4-8 เม.ย.) ร่วงหลุดระดับ 1,700 จุดลงไป หลังจากยืนระดับดังกล่าวมาได้หลายวัน

โดย “ภราดร เตียรณปราโมทย์” ผู้ช่วยผู้อำนวยการ สายงานวิจัย บล.เอเซีย พลัส กล่าวว่า เป็นผลมาจากรายงาน Fed Minutes ที่ส่งสัญญาณการปรับลดขนาดงบดุล (balance sheet) ในเดือน พ.ค. ซึ่งเร็วกว่าที่คาดไว้และปรับลงเดือนละ 9.5 หมื่นล้านดอลลาร์

นอกจากนี้ ยังมีเสียงสนับสนุนให้ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.50% ในการประชุมครั้งถัดไป จึงกลายเป็นปัจจัยที่กดดันตลาดหุ้นทั่วโลกปรับตัวลงแรง โดยเฉพาะหุ้นเทคโนโลยี รวมถึงหุ้นไทย

มองไปข้างหน้าในสัปดาห์นี้ (11-12 เม.ย.) ก่อนเข้าสู่เทศกาลสงกรานต์ หุ้นไทยคาดว่าจะมีวอลุ่มการซื้อขายเบาบาง โดย “ภราดร” กล่าวว่ากรอบดัชนีน่าจะอยู่แถว ๆ 1,670-1,700 จุด โดยตลาดยังคงมีความกังวลต่อเนื่องมาจากสัปดาห์ที่ผ่านมา

อย่างไรก็ตาม การผ่อนคลายมาตรการการท่องเที่ยว โดยการยกเลิกตรวจ RT-PCR ภายใน 72 ชั่วโมงของนักท่องเที่ยงต่างชาติ ทำให้ตัวเลขนักท่องเที่ยว 7 วันแรกของเดือน เม.ย.เพิ่มขึ้น 66% เมื่อเทียบกับเดือน มี.ค. หรืออยู่ที่ประมาณ 1.1 หมื่นรายต่อวัน ถือเป็นสัญญาณการฟื้นตัวของเศรษฐกิจไทยที่ดี

“ดังนั้น แม้ภาพใหญ่หุ้นไทยจะถูกกดดัน แต่ยังมีหุ้นบางตัวที่มีโอกาสที่จะฟื้นตามเศรษฐกิจในประเทศ”

ทั้งนี้ สัปดาห์นี้มี 3 ปัจจัยหลักที่ต้องติดตาม ได้แก่ 1.ทิศทางการดำเนินนโยบายการเงินที่ตึงตัวของทั่วโลก โดยในวันที่ 12 เม.ย. สหรัฐจะรายงานตัวเลขเงินเฟ้อทั่วไปเดือน มี.ค. คาดว่าจะอยู่ที่ 8.3% และเงินเฟ้อพื้นฐานที่ 6.6% 2.ความยืดเยื้อของสงครามรัสเซีย-ยูเครน และ 3.เงินเฟ้อที่อาจเร่งตัวขึ้นจากความเสี่ยงต่าง ๆ

สำหรับกลยุทธ์การลงทุน แนะนำหุ้นที่ได้ประโยชน์จาก summer play และมีปัจจัยบวกเฉพาะตัวจากการทยอยเปิดประเทศ โดยหุ้นกลุ่มท่องเที่ยวแนะนำ AOT, ERW หุ้นสถานที่ท่องเที่ยว แนะนำ CPN, CRC, MAJOR

และหุ้นที่มีเกราะป้องกันที่ได้รับประโยชน์จากนโยบายการเงินแบบตึงตัว จะเป็นกลุ่มธนาคารพาณิชย์ แนะนำ KBANK และกลุ่มประกัน แนะนำ BLA

อ้างอิง
https://www.prachachat.net/finance

หุ้นไทยสัปดาห์ที่ผ่านมา (4-8 เม.ย.) ร่วงหลุดระดับ 1,700 จุดลงไป หลังจากยืนระดับดังกล่าวมาได้หลายวัน โดย “ภราดร เตียรณปราโมทย์” ผู้ช่วยผู้อำนวยการ สายงานวิจัย บล.เอเซีย พลัส กล่าวว่า เป็นผลมาจากรายงาน Fed Minutes ที่ส่งสัญญาณการปรับลดขนาดงบดุล (balance sheet) ในเดือน พ.ค. ซึ่งเร็วกว่าที่คาดไว้และปรับลงเดือนละ 9.5 หมื่นล้านดอลลาร์ นอกจากนี้ ยังมีเสียงสนับสนุนให้ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.50% ในการประชุมครั้งถัดไป จึงกลายเป็นปัจจัยที่กดดันตลาดหุ้นทั่วโลกปรับตัวลงแรง โดยเฉพาะหุ้นเทคโนโลยี รวมถึงหุ้นไทย มองไปข้างหน้าในสัปดาห์นี้ (11-12 เม.ย.) ก่อนเข้าสู่เทศกาลสงกรานต์ หุ้นไทยคาดว่าจะมีวอลุ่มการซื้อขายเบาบาง โดย “ภราดร” กล่าวว่ากรอบดัชนีน่าจะอยู่แถว ๆ 1,670-1,700 จุด โดยตลาดยังคงมีความกังวลต่อเนื่องมาจากสัปดาห์ที่ผ่านมา อย่างไรก็ตาม การผ่อนคลายมาตรการการท่องเที่ยว โดยการยกเลิกตรวจ RT-PCR ภายใน 72 ชั่วโมงของนักท่องเที่ยงต่างชาติ ทำให้ตัวเลขนักท่องเที่ยว 7 วันแรกของเดือน…